The Digital SAT (2023) คืออะไรต่างจากเดิมอย่างไรบ้าง

SAT 2016*Course Guarantee สอบไม่ถึง 1300 เรียนชดเชยแบบตัวต่อตัวฟรี 40 ชม.
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล

ตารางคอร์สสด NEW SAT 1300+ ( จำกัด 8 ที่นั่ง )

BASIC NEW SAT

subject

hrs.

day

time

date

maths

24 hrs.

Mon/Wed/Fri

10.00 – 12.00

4 May – 29 May 

INTENSIVE NEW SAT ตะลุยโจทย์ | 1300+

subject

hrs.

day

time

date

maths

20 hrs.

SAT&SUN

14.00 – 16.00

18 July –  9 Aug 

english

20 hrs.

SAT&SUN

16.00 – 18.00

18 July –  9 Aug 

MASTERING SAT MATHS (For 750+)

subject

hrs.

day

time

date

maths

24 hrs.

Sat&Sun

15.00 – 17.00

2 May – 7 June 

One-on One class @ INT TUTOR Guarantee 1300+ !!!
#ตัวต่อตัว 80 ชั่วโมงต่อวิชา รับรองผล 1300+
*สอบไม่ถึง 1300 เรียนชดเชยแบบตัวต่อตัวฟรี
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรายบุคคล

The Right Ways to a Higher Score @ INT TUTOR

ต้องการเข้าเรียนจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ มหิดล หรือมหาวิทยาลัยระดับโลกอย่าง Ivy League หรือไม่? INT TUTOR พร้อมเป็นคู่คิด พาคุณไปถึงฝัน ด้วยหลักสูตรติวเข้มแบบตัวต่อตัวและกลุ่มเล็ก (จำกัดเพียง 8 คนต่อกลุ่ม)

ทำไมต้องเลือก INT TUTOR?

  • เรียนแบบตัวต่อตัว: ได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากอาจารย์ผู้สอนที่มีประสบการณ์
  • กลุ่มเรียนเล็ก: สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เป็นกันเองและมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • วางแผนการเรียนแบบครบวงจร: ตั้งแต่การวางแผนการเรียน การเลือกวิชา ไปจนถึงการเลือกมหาวิทยาลัย
  • ทีมอาจารย์คุณภาพ: อาจารย์จากวิศวกรรมศาสตร์ปริญญาโท จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอาจารย์ชาวต่างชาติจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์
  • เน้นการปฏิบัติ: ฝึกทำโจทย์จริง สอบจำลอง เพื่อให้พร้อมสำหรับการสอบจริง

หลักสูตรของเราครอบคลุมอะไรบ้าง?

  • ติวเข้มทุกวิชา: คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และวิชาอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
  • เทคนิคการทำข้อสอบ: สอนเทคนิคการทำข้อสอบให้เร็วและถูกต้อง
  • การจัดการเวลา: สอนวิธีการจัดการเวลาในการทำข้อสอบให้มีประสิทธิภาพ
  • การสร้างความมั่นใจ: ช่วยให้นักเรียนมีความมั่นใจในการสอบ

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ SAT (New SAT 2016)

ข้อสอบ SAT แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ คณิตศาสตร์ (แบ่งเป็นส่วนที่ใช้เครื่องคิดเลขและไม่ใช้เครื่องคิดเลข) และ การอ่านและการเขียนเชิงวิเคราะห์ โดยแต่ละส่วนจะมีคะแนนเต็ม 800 คะแนน เมื่อรวมกันแล้วจะได้คะแนนเต็มทั้งหมด 1600 คะแนน

ทำไมต้อง SAT?

  • ยืดหยุ่นในการสอบ: SAT มีความยืดหยุ่นสูง สามารถสอบได้ถึง 6 ครั้งต่อปี ทำให้นักเรียนมีโอกาสได้ทำคะแนนที่ดีที่สุด
  • เน้นทักษะที่จำเป็น: SAT เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญสำหรับการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
  • ได้รับการยอมรับทั่วโลก: คะแนน SAT เป็นที่ยอมรับจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก

เคล็ดลับในการทำคะแนน SAT ให้สูง

  • เตรียมตัวล่วงหน้า: เริ่มเตรียมตัวสอบตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้มีเวลาฝึกฝนอย่างเพียงพอ
  • ทำข้อสอบจำลอง: ฝึกทำข้อสอบจำลองบ่อยๆ เพื่อทำความคุ้นเคยกับรูปแบบข้อสอบ
  • เน้นจุดอ่อน: หาจุดอ่อนของตัวเองและฝึกฝนเป็นพิเศษ
  • บริหารเวลา: ฝึกบริหารเวลาในการทำข้อสอบให้ทันเวลา
  • เลือกครั้งที่ทำคะแนนได้ดีที่สุด: สามารถเลือกครั้งที่ทำคะแนนได้ดีที่สุดจากการสอบทั้งหมด 6 ครั้งมาใช้ในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัย

รายละเอียดข้อสอบ SAT 2016

SAT:: Reading Test (Critical Reading): 52 Questions 65-minute รูปแบบคำถาม คือ
#คำถามเป็น Multiple choice
#บาง passage จะสัมพันธ์กับ อีกบทความหนึ่ง
#มีการรวม กราฟ ตาราง ชาร์ท มาพร้อมกับ passage

SAT:: Reading Test ครอบคลุมหัวข้อ 
  • a classic or contemporary work of U.S. or world literature
  • a pair of passages from either a U.S. founding document or a text in the great global conversation
  • A selection about economics, psychology, sociology, or some other social science.

ลักษณะของคำถาม

  • Find evidence in a passage (or pair of passages) that best supports the answer 
  • Identify how authors use evidence to support their claims.
  • Find a relationship between an informational graphic and the passage it’s paired with
  • an author’s word choice shapes meaning, style, and tone.

SAT:: Writing and Language Test: 44 Questions 35-minute ทดสอบความสามารถทางไวยกรณ์ (Grammar) และการเขียนเรียงความ (Essay) วัดทักษะดังต่อไปนี้

  1. Command of Evidence: To improve the way passages develop information and ideas. 
  2. Words in Context: To improve word choice.
  3. Expression of Ideas: A passage’s organization and its impact.
  4. Standard English Conventions: sentence structure, usage, and punctuation.


SAT:: Mathematics
ข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์เป็นแบบปรนัย (multiple choice) 58 ข้อ ใช้เวลาสอบทั้งหมด 80นาที โดยแบ่งเป็นส่วนที่สามารถใช้เครื่องคิดเลขช่วยได้(Calculator) 38 ข้อ 55 นาที และ ส่วนที่ไม่สามารถใช้เครื่องคิดเลขได้(No calculator) อีก 20 ข้อ 25 นาที

  1. Number and operations
  2. Algebra and functions
  3. Geometry and measurement
  4. Data analysis, statistics and probability
  5. Exponential & square root
  6. Percentage, ratios and proportions
  7. Solve problems using volume formulas (New SAT)
  8. Use trigonometric ratios and the Pythagorean theorem (New SAT)
  9. Basic complex numbers (New SAT)
  10. Convert between degrees and radians (New SAT)
  11. Apply theorems about circles (New SAT)
  12. Apply concepts and theorems about congruence and similarity (New SAT)
  13. Use the relationship between similarity, right triangles, and trigonometric ratios (New SAT)
  14. Create an equation in two variables to solve a problem about a circle in the coordinate plane (New SAT)

The Digital SAT คืออะไร

SAT ในรูปแบบใหม่ The Digital SAT มาพร้อมกับรูปแบบการสอบที่ทันสมัยกว่าเดิม ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป นักเรียนจะได้สัมผัสประสบการณ์การสอบผ่านคอมพิวเตอร์ที่นำมาเอง โดยยังคงแบ่งเนื้อหาออกเป็น 2 ส่วนหลักเหมือนเดิม คือ Reading and Writing (RW) และ Mathematics

อะไรที่เปลี่ยนไปใน Digital SAT?

  • รูปแบบการสอบ: จากเดิมที่ทำบนกระดาษ เปลี่ยนมาเป็นทำบนคอมพิวเตอร์ ทำให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น
  • รูปแบบข้อสอบ Reading and Writing: แม้เนื้อหาจะคล้ายเดิม แต่รูปแบบข้อสอบจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย ต้องฝึกทำโจทย์แบบใหม่เพื่อให้คุ้นเคย
  • รูปแบบข้อสอบ Mathematics: ยังคงเน้นเนื้อหาเดิม แต่ระบบ Adaptive จะปรับระดับความยากของข้อสอบตามผลการทำในส่วนแรก ทำให้ต้องวางแผนการทำข้อสอบให้ดี

New SAT 2016 vs The Digital SAT

  1. เวลาในการทำสอบและจำนวนข้อสอบ (ทั้งหมด 154ข้อ 180นาที เหลือ 98ข้อ 134นาที)
    • Maths
    • เวลาทำข้อสอบจาก 58ข้อ 80นาที ลดเหลือ 44ข้อ 70นาที
    • เวลาต่อข้อเฉลี่ย 82วินาที เพิ่มเป็น 95วินาที
    • Reading and Writing (RW)
    • เวลาทำข้อสอบจาก 96ข้อ 100นาที ลดเหลือ 54ข้อ 64นาที
    • เวลาต่อข้อเฉลี่ย 62วินาที เพิ่มเป็น 71วินาที
  2. ลักษณะข้อสอบถูกปรับเป็น Adaptive โดยแบ่งข้อสอบเป็น 2ส่วนเท่าๆกัน (Maths 22/22  RW 27/27) ถ้าทำครึ่งแรกได้คะแนนถึงเกณฑ์ที่กำหนด ข้อสอบครึ่งหลังจะยากขึ้นและมีโอกาสได้คะแนนมากขึ้น (Maths กับ RW แยกกันคำนวนทำอันไหนได้คะแนนดีก็จะได้ข้อสอบที่ยากขึ้นของวิชานั้น)
    • Maths
    • ใช้เครื่องคิดเลขได้ทุกข้อ (มีโปรแกรมเครื่องคิดเลขให้สำหรับคนที่ไม่ได้นำเครื่องคิดเลขมาเอง)
    • RW
    • เปลี่ยนจาก passage ยาวที่อ่านทีเดียวแล้วต้องตอบคำถามหลายข้อเป็น passage สั้นที่อ่านแล้วใช้ตอบข้อเดียวแทน
  3. สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนไปสอบ
    • เอกสารยืนยันตัวตน (บัตรประชาชน / passport)
    • หลักญานการจองรอบการสอบ (ปริ้นหน้าการจอง)
    • เครื่องคิดเลข
    • อุปกรณ์ในการทำข้อสอบ Digital test เช่น Laptop, Tablet

SAT vs CU-AAT

  • ความยากง่ายของคณิตศาสตร์: ข้อสอบ SAT ส่วนคณิตศาสตร์มักจะมีเนื้อหาที่เข้าใจง่ายกว่า CU-AAT เล็กน้อย ทำให้ผู้ที่ถนัดคณิตศาสตร์อาจได้เปรียบในการสอบ SAT
  • ความยากง่ายของภาษาอังกฤษ: ตรงกันข้ามกับคณิตศาสตร์ ข้อสอบ SAT ส่วนภาษาอังกฤษมักจะมีเนื้อหาที่ซับซ้อนและต้องการทักษะการวิเคราะห์ที่สูงกว่า CU-AAT

สรุปง่ายๆ: ถ้าคุณถนัดคณิตศาสตร์ ลองพิจารณา SAT แต่ถ้าถนัดภาษาอังกฤษ CU-AAT อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า

ข้อแนะนำในการสอบ SAT

เนื่องจากคะแนนเก็บได้ 2 ปี จึงแนะนำให้สอบได้ต้องแต่เรียนอยู่ชั้น ม. 4 หรือ ม. 5 ในการสมัครสอบ SAT นั้นผู้สมัครควรสมัครสอบ CU-AAT ควบคู่ไปด้วย เนื่องจากเนื้อหาในการสอบใกล้เคียงกัน

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ SAT

ในการสอบมี 3 ส่วน คือ Maths, Reading (Critical Reading) และ Writing and Language Test โดยทั่วไปมหาลัยจะพิจารณาเฉพาะ Maths, Critical Reading คือมีคะแนนเต็ม 1600 คะแนน

ในแต่ละข้อมีเวลาในการทำเฉลี่ยประมาณ 60-90 วินาที จึงเป็นข้อสอบแบบ Speed Test ที่ต้องการวิธีดารคิดที่มีความถูกต้องสูง เพราะการตอบผิด ช่วง 0-5 ข้อจะเสียคะแนนมากที่สุด

รายละเอียดเพิ่มเติม :

สมัครเรียนผ่านไลน์

การเรียน IGCSE/GCSE แบบออนไลน์สด-ตัวต่อตัว (IGCSE Online private class)

  • สามารถเรียนที่ไหนก็ได้
  • เลือกเวลาเรียนได้มากกว่าเรียนที่ห้อง (ดึกๆก็ยังเรียนได้)
  • ไม่ต้องเดินทาง (อยู่ต่างประเทศก็เรียนได้)
  • เนื้อหาครบถ้วนละเอียดเหมือนเรียนในห้อง
  • จดงานได้รวดเร็วมีระเบียบ
  • สามารถสอบถามได้ทันทีเหมือนเรียนในห้อง
  • ปลอดภัยไม่ต้องกังวนน้องกลับดึก
  • ค่าเรียนถูกกว่าเรียนในห้อง

วีดีโอด้านล่างแสดงหน้าจอของนักเรียนที่เรียนผ่านโปรแกรม Zoom น้องๆจะสามารถเขียนโต้ตอบกับคุณครูได้ทันทีถ้าไม่เข้าใจ
(สีดำคุณครูเขียน สีเหลือนักเรียนเขียน ครับ)

Digital SAT Preview

Digital SAT Reading Section

Digital SAT Writing Section

Digital SAT Maths Section

Tool and navigation available in Digital SAT test
Highlight text
Flag questions
Strikethrough answers
กดปุ่ม “Questions” ที่อยู่ด้านซ้ายบนเพื่อเพื่อคำถามทั้งหม และสามารถกดเลือกข้อที่สนใจได้
Source : https://blog.olive-book.com/digital-sat-test-preview/

SAT II (SAT Subject tests)

SAT II เป็น Subject Test สำหรับ SAT II จะประกอบไปด้วย

  • Physics
  • Chemistry
  • Biology
  • Maths

เหมาะสำหรับสำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในคณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ 

Share the Post: